คิวอาร์โค้ดคืออะไร
คุณน่าจะได้เห็นสัญลักษณ์ที่สแกนได้เหล่านี้ในทุก ๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็นเมนูร้านอาหาร ตั๋วเข้าชมการแข่งขันหรือบอร์ดดิ้งพาสเที่ยวบิน ด้วยการสแกนอย่างรวดเร็วโดยใช้กล้องโทรศัพท์ของคุณ คุณจะสามารถเปิดเว็บไซต์ เลือกอาหารของคุณหรือรับข้อมูลสำคัญได้ภายในไม่กี่วินาที
แต่รหัส QA จริง ๆ แล้วทำงานอย่างไรกันนะ? และการสแกนรหัสเหล่านี้ปลอดภัยทุกครั้งเลยหรือเปล่า? ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกเกี่ยวกับว่ารหัส QR คืออะไร ทำงานอย่างไรและสิ่งคุณควรรู้ก่อนที่จะสแกน
บทนำเกี่ยวกับรหัส QR
รหัส QR เป็นบาร์โค้ดเมทริกซ์ประเภทหนึ่งที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อการเข้ารหัสข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว คุณสามารถจดจำรหัสนี้ได้ง่าย ๆ จากรูปแบบขาวดำที่ประกอบไปด้วยโมดูลสี่เหลี่ยมจัตุรัสอันโดดเด่น เมื่อสแกนด้วยเครื่องอ่านรหัส QR หรือกล้องสมาร์ทโฟน รหัสสองมิตินี้จะมอบสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลที่เก็บไว้ได้อย่างรวดเร็ว
QR ย่อมาจากอะไร?
QR ย่อมาจาก "การตอบสนองอย่างรวดเร็ว (Quick Response)” ชื่อนี้ได้มาจากความเร็วในการทำงานของรหัสเหล่านี้ ซึ่งมอบผลลัพธ์ให้เกือบจะทันทีที่คุณสแกนมัน
ใครเป็นคนคิดค้นรหัส QR?
รหัส QR ถูกคิดค้นขึ้นในปี 1994 โดย Masahiro Hara วิศวกรชาวญี่ปุ่นที่บริษัทยานยนต์ Denso Wave เป้าหมายของเขาคือการสร้างบางสิ่งที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าบาร์โค้ดธรรมดา โดยเดิมทีนั้นคือเพื่อช่วยติดตามชิ้นส่วนยานยนต์ในโรงงานผลิต
รหัส QR แตกต่างจากบาร์โค้ดอย่างไร?
รหัส QR ทำงานคล้ายกันกับบาร์โค้ดธรรมดา แต่มีข้อได้เปรียบที่สำคัญอยู่สองสามอย่าง:
- ความจุของข้อมูล: บาร์โค้ดธรรมดาเป็นแบบเส้นตรงหรือมิติเดียว ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถจัดเก็บข้อมูลได้ตามจำนวนที่จำกัดเท่านั้น ซึ่งโดยปกติแล้วจะอยู่ที่สูงสุด 100 ตัวอักษร ในทางกลับกัน รหัส QR เป็นแบบสองมิติที่เข้ารหัสข้อมูลทั้งแบบแนวนอนและแนวตั้ง นี่ช่วยทำให้มีพื้นที่ในการเก็บตัวอักษรได้หลายพันอักษร
- ความยืดหยุ่น: บาร์โค้ดเสียหายได้ง่าย รอยขีดข่วนเล็ก ๆ, รอยเปื้อนหรือรอยฉีกขาดอาจทำให้ไม่สามารถอ่านบาร์โค้ดได้ รหัส QR มีความทนทานมากขึ้นเนื่องจากการแก้ไขข้อผิดพลาดในตัว แม้ว่าส่วนหนึ่งของรหัส QR จะเสียหาย แต่ก็สามารถใช้แอปหรือเครื่องอ่านรหัส QR สแกนได้
- ความอเนกประสงค์: บาร์โค้ดส่วนใหญ่จะปรากฏอยู่ในสถานที่ต่าง ๆ เช่น ร้านค้าปลีกและการติดตามสินค้าคงคลัง แต่รหัส QR มีประโยชน์มากกว่าตั้งแต่ตั๋วดิจิทัลและบรรจุภัณฑ์ไปจนถึงการชำระเงินแบบไร้สัมผัสและแคมเปญทางการตลาด รหัส QR ยังถูกนำมาใช้เพื่อติดตามผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในช่วงการแพร่ระบาดใหญ่ด้วย
- ความสะดวกสบาย: เราสามารถสแกนบาร์โค้ดได้ในทิศทางเดียว ดังนั้นคุณจึงต้องตั้งเครื่องอ่านของคุณในตำแหน่งที่ถูกต้อง แถมยังมีเพียงเครื่องสแกนบาร์โค้ดพิเศษเท่านั้นที่สามารถอ่านข้อมูลดังกล่าวได้ รหัส QR มอบความสะดวกสบายให้มากกว่าสำหรับประชาชนทั่วไป เกือบทุกคนสามารถสแกนรหัส QR ได้โดยใช้สมาร์ทโฟนของตน แม้ว่าจะอยู่ในมุมหรือทิศทางที่ต่างกัน
รหัส QR ทำงานอย่างไร?
รหัส QR ทำงานได้เหมือนกันกับบาร์โค้ดธรรมดา แต่มีข้อมูลมากกว่าในขนาดที่เล็กกว่า แทนที่จะเป็นแค่เส้นตั้ง ๆ อย่างเดียว รหัส QR ใช้ช่องสี่เหลี่ยมสีขาวดำเล็ก ๆ ที่จัดเรียงเป็นตาราง เมื่อคุณสแกนรหัส QR ด้วยกล้องสมาร์ทโฟนของคุณหรือเครื่องอ่าน QR ซอฟต์แวร์จะอ่านรูปแบบและแปลงเป็นบางอย่างที่มีประโยชน์ เช่น URL เว็บไซต์ รายละเอียดข้อมูลติดต่อหรือช่องทางการชำระเงิน
องค์ประกอบหลักของรหัส QR
รหัส QR ทั้งหมดประกอบด้วยส่วนหลักเจ็ดส่วน:
- โซนเงียบ: นี่คือช่องว่างรอบ ๆ รหัส QR ช่องว่างนี้ช่วยให้เครื่องสแกนเข้าใถึงขอบเขตที่ชัดจนเพื่อที่จะได้สามารถตรวจจับรหัสได้อย่างง่ายดายโดยไม่ถูกรบกวนจากองค์ประกอบใกล้เคียง
- ตัวค้นหา: นอกจากนี้ยังรู้จักในฐานะรูปแบบการตรวจจับตำแหน่งด้วย ตัวค้นหาคือรูปสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่สามรูปที่คุณเห็นด้านบนมุมซ้าย ด้านบนมุมขวาและด้านล่างมุมซ้าย ตัวค้นหาจะช่วยระบุตำแหน่งและทิศทางของรหัสได้
- รูปแบบการจัดตำแหน่ง: สี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่โดยปกติแล้วจะอยู่ใกล้กับสี่เหลี่ยมมุมขวาล่างจะช่วยให้สามารถอ่านรหัสได้แม้ว่าคุณจะสแกนในมุมเอียง ไม่ใช่ทุกรหัส QR จะมีฟีเจอร์นี้ โดยปกติแล้วจะอยู่ในรหัสที่มีขนาดใหญ่กว่าและมีความซับซ้อนมากกว่า
- รูปแบบกำหนดเวลา: นี่ดูเหมือนเส้นรูปตัว L ที่เชื่อมโยงกับตัวค้นหา สิ่งนี้จะช่วยเครื่องสแกนวัดว่ากรอบใหญ่แค่ไหนและอ่านรูปสี่เหลี่ยมแต่ละรูปได้อย่างถูกต้องแม้ว่ารหัสจะเสียหายเล็กน้อย
- ข้อมูลเวอร์ชัน: ตั้งอยู่ใกล้กับตัวค้นหาด้านบนมุมขวา ข้อมูลเวอร์ชันจะบอกเครื่องสแกนถึงเวอร์ชันของรหัส QR ที่กำลังอ่าน มีเวอร์ชันรหัส QR ที่แตกต่างกันถึง 40 รหัสที่มาพร้อมหมายเลขโมดูลที่แตกต่างกัน
- ข้อมูลรูปแบบ: สิ่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับตัวค้นหาและประกอบไปด้วยข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบการปิดบังข้อมูลและระดับการแก้ไขข้อผิดพลาดของรหัส QR ซึ่งทำให้อ่านได้แม้ว่าจะเสียหายเล็กน้อย
- ช่องข้อมูล: นี่คือช่องสี่เหลี่ยมขาวดำอื่น ๆ ทั้งหมดในกรอบ ช่องเหล่านี้เก็บข้อมูลจริง ๆ ที่คุณพยายามจะเข้าถึงเมื่อสแกนรหัส

โหมดการป้อนรหัส QR
เมื่อคุณสร้างรหัส QR วิธีการเก็บข้อมูลไว้ข้างในนั้นจะขึ้นอยู่กับบางสิ่งที่เรียกว่าโหมดการป้อน ให้ลองนึกถึง "ภาษา” ที่รหัส QR ของคุณใช้เพื่อบันทึกข้อมูล แต่ละโหมดได้รับการออกแบบมาเพื่อประเภทตัวอักษรที่ต่างกันไปและมีขีดจำกัดพื้นที่จัดเก็บที่ต่างกัน นี่คือโหมดป้อนข้อมูลหลักสี่โหมด:
- ตัวเลข: ใช้ตัวเลขเท่านั้น (0-9) เพราะมีประสิทธิภาพมาก ๆ โหมดนี้สามารถจัดเก็บตัวเลขได้มากกว่า 7,000 หลักในรหัส QR เดียว ซึ่งถือว่าสมบูรณ์แบบสำหรับสิ่งต่าง ๆ เช่น ตัวเลขหรือ ID ยาว ๆ
- ตัวเลขและตัวอักษร: โหมดนี้รองรับตัวเลขและตัวอักษร (ตัวอักษร ตัวเลข เว้นวรรค) และสัญลักษณ์พิเศษเล็กน้อย เช่น "%” และ "$” โหมดนี้สามารถเก็บตัวอักษรได้มากกว่า 4,000 ตัวอักษร ซึ่งเหมาะสำหรับสิ่งต่าง ๆ เช่น รหัสคูปองหรือข้อความสั้น ๆ
- ไบท์: รองรับตัวอักษรจากชุดตัวอักษร ISO-8859-1 ซึ่งรวมถึงตัวอักษรละตินและสัญลักษณ์ โหมดนี้สามารถเก็บสัญลักษณ์ได้สูงสุดถึง 3,000 ตัวอักษร ซึ่งทำให้โหมดนี้มีประโยชน์สำหรับข้อความสองภาษาหรือข้อมูลโดยละเอียด
- คันจิ: ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อตัวอักษรญี่ปุ่นโดยใช้ชุด Shift JIS โหมดนี้เป็นโหมดดั้งเดิมเพราะรหัส QR ถูกคิดค้นขึ้นในญี่ปุ่น โหมดนี้จัดเก็บอักษรดับเบิลไบท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับข้อความภาษาญี่ปุ่น
รหัส QR แบบคงที่ vs. แบบไดนามิก
รหัส QR ยังมาพร้อมกับประเภทหลัก ๆ สองประเภท ได้แก่ แบบคงที่และแบบไดนามิก
- รหัส QR แบบคงที่: รหัสเหล่านี้เป็นแบบคงที่ หลังจากที่คุณสร้างเสร็จ คุณจะไม่สามารถเปลี่ยนข้อมูลข้างในได้ อะไรก็ตามที่คุณใส่ไว้ในตอนแรกจะคงอยู่เหมือนเดิมเสมอ รหัส QR แบบคงที่ทำงานได้ดีสำหรับการใช้งานแบบครั้งเดียวหรือแบบไม่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น การลงทะเบียนกิจกรรม, การเข้าสู่ระบบ Wi-Fi หรือการเช็กอินแบบไร้การสัมผัส
- รหัส QR แบบไดนามิก: รหัสเหล่านี้มีความยืดหยุ่นมากกว่า แทนที่จะเก็บข้อมูลแบบคงที่เอาไว้ รหัสนี้จะชี้ไปยัง URL และสามารถอัปเดต URL ได้ทุกเมื่อที่คุณต้องการ นี่หมายความว่าคุณสามารถเก็บรหัส QR เดิม แต่เปลี่ยนที่ที่รหัสนำไป ซึ่งทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับแคมเปญการตลาด การบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์หรือการชำระเงินผ่านมือถือ
ประเภทของรหัส QR และการใช้งาน
รหัส QR มีหลายรูปแบบตั้งแต่รหัส QR เมนูในร้านอาหารไปจนถึงรหัสการยืนยันสินค้าบนบรรจุภัณฑ์ นี่คือตัวอย่างที่พบบ่อยทั่วไปบางส่วนและสิ่งที่รหัสทำได้:
- รหัส QR URL เว็บไซต์: URL เหล่านี้จะเปลี่ยนเส้นทางโดยการส่งคนไปยังหน้าเว็บที่เฉพาะเจาะจงโดยตรง เช่น หน้าสินค้า โปรโมชั่นหรือหน้าแรก นี่เป็นรหัส QR ที่พบบ่อยทั่วไปที่คุณได้เห็น
- รหัส QR vCard: รหัสเหล่านี้ทำงานเหมือนนามบัตร โดยจะแชร์ข้อมูลติดต่อ เช่น ชื่อของคุณ ตำแหน่ง หมายเลขโทรศัพท์ อีเมลและลิงก์โซเชียลทันที รหัสนี้เหมาะสำหรับเครือข่ายหรือการแนะนำตัวเอง
- รหัส QR Wi-Fi: รหัส QR Wi-Fi จะช่วยให้ผู้คนสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายได้ทันทีโดยไม่ต้องค้นหาหรือกรอกรหัสผ่าน คุณมักจะเห็นรหัสนี้ในโรงแรม คาเฟ่ ร้านอาหารและพื้นทำงานร่วมกันซึ่งทำให้เข้าสู่เครือข่ายได้ง่าย
- รหัส QR ร้านค้าแอป (App store): รหัส QR เหล่านี้จะนำผู้ใช้ไปยังหน้าของแอปบน Apple App Store หรือ Google Play Store สิ่งนี้จะทำให้ผู้สร้างแอปเพิ่มการดาวน์โหลดได้ง่ายขึ้นและทำให้ผู้ใช้ค้นพบแอปที่ถูกต้องได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องค้นหาด้วยตัวเอง
- รหัส QR โซเชียลมีเดีย: รหัส QR โซเชียลมีเดียอาจมีลิงก์ไปยังโปรไฟล์โซเชียลมีเดียต่าง ๆ ด้วยการสแกนครั้งเดียว ผู้คนจะสามารถเข้าถึงบัญชี Instagram, Facebook, LinkedIn หรือบัญชีอื่น ๆ ของใครสักคนได้ นี่ถือว่ามีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับอินฟลูเอนเซอร์ ธุรกิจและผู้สร้างที่อยากได้ผู้ชมเพิ่มขึ้น
- รหัส QR ดาวน์โหลดไฟล์: ต้องการแชร์ PDF, รูปภาพหรือเอกสารอย่างรวดเร็วใช่ไหม? รหัส QR ดาวน์โหลดไฟล์ทำให้การส่งไฟล์ทันทีเมื่อสแกนเป็นไปได้ โดยช่วยประหยัดเวลาและหลีกเลี่ยงหัวข้ออีเมลยาวเหยียดหรือลิงก์ดาวน์โหลดที่ซับซ้อน
- รหัส QR อีเมล, SMS และโทรศัพท์: รหัสเหล่านี้ช่วยให้มีการโต้ตอบอย่างรวดเร็ว เช่น การส่งข้อความที่เขียนไว้ล่วงหน้า การเขียนอีเมลหรือการกดหมายเลขโทรศัพท์โดยอัตโนมัติ รหัสเหล่านี้มักถูกใช้ในฝ่ายสนับสนุนลูกค้า แคมเปญการตลาดและการสร้างโอกาสในการขายเพื่อให้ติดต่อผู้คนได้ง่ายขึ้น
- รหัส QR กิจกรรมและตำแหน่งทางภูมิศาสตร์: รหัส QR กิจกรรมทำให้การลงทะเบียนผู้เข้าร่วม การยืนยันตั๋วหรือการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมที่กำลังจะมาถึงให้เป็นเรื่องง่ายขึ้น ในทางกลับกันก็สามารถแบ่งปันข้อมูลตำแหน่งที่อยู่จริง ๆ ได้ทันที ซึ่งทำให้มีประโยชน์สำหรับการวางแผนกิจกรรม คู่มือแนะนำการท่องเที่ยวและแม้กระทั่งรายการสินทรัพย์
- รหัส URL หลายลิงก์: รหัสนี้จะเป็นแบบไดนามิกและสามารถแสดงลิงก์ต่าง ๆ ได้โดยขึ้นอยู่กับเวลา ภาษาหรือตำแหน่งที่สแกน
- รหัส QR MP3: ได้รับการออกแบบมาเพื่อแชร์ไฟล์เสียง เช่น ไฟล์เพลง พอตคาสต์หรือไฟล์บันทึกอื่น ๆ ซึ่งทำให้รหัสนี้มีประโยชน์สำหรับนักดนตรีและผู้สร้างเนื้อหา
วิธีสแกนรหัส QR
ในอดีต การสแกนรหัส QR นั้นถือว่าไม่ค่อยสะดวกนักเหมือนกับตอนนี้เนื่องจากคุณมักจะต้องดาวน์โหลดและติดตั้งแอปอ่านรหัส QR พิเศษลงบนอุปกรณ์ของคุณ อย่างไรก็ตามทุกวันนี้โทรศัพท์เกือบทุกเครื่องและแม้กระทั่งแท็บเล็ตก็มีความสามารถในการสแกนรหัส QR ภายในตัว ซึ่งทำให้การสแกนรหัสใด ๆ ที่คุณเจอง่ายดาย สะดวกและรวดเร็ว
การสแกนรหัส QR โดยใช้ iPhone หรือ iPad
มีวิธีในการสแกนรหัส QR บนอุปกรณ์ iOS สองวิธี:
วิธีที่ 1 โดยการใช้แอปกล้องถ่ายรูป
- เปิดแอปกล้องถ่ายรูป

- หันกล้องของคุณไปที่รหัส QR
- แตะที่การแจ้งเตือนเพื่อเปิดลิงก์ที่เชื่อมโยงกับรหัส

วิธีที่ 2 โดยการใช้ศูนย์ควบคุม
ก่อนอื่นคุณจะต้องเพิ่มวิดเจ็ตเครื่องสแกนรหัสไปยังศูนย์ควบคุม:
- เลื่อนลงจากมุมขวาบนของหน้าจอ

- กดที่พื้นหลังค้างจนกว่าจะมีตัวเลือกในการแก้ไขศูนย์ควบคุมปรากฏ แตะเพิ่มการควบคุม

- คลิกสแกนรหัส

หลังจากที่เพิ่มเสร็จแล้ว คุณจะสามารถสแกนรหัสได้อย่างรวดเร็ว:
- เลื่อนลงจากมุมขวาบนของหน้าจอ
- แตะที่ไอคอนเครื่องสแกน QR

- สแกนรหัสและปฏิบัติตามคำแนะนำที่ปรากฏ
การสแกนรหัส QR โดยใช้โทรศัพท์ Android
อุปกรณ์ Android มักจะมีวิธีง่าย ๆ ในการสแกนรหัส QR สองวิธี:
วิธีที่ 1 โดยการใช้แอปกล้องถ่ายรูป
- เปิดแอปกล้องถ่ายรูป

- หันกล้องของคุณไปที่รหัส QR

- แตะที่แบนเนอร์ที่ปรากฏ
วิธีที่ 2 การใช้ Google Lens
- เปิดแอป Google Lens หรือแตะที่ไอคอน Lens ผ่าน Google Assistant หรือแถบค้นหา Google Search

- หันกล้องของคุณไปยังรหัส QR

- แตะที่ลิงก์ที่ปรากฏเพื่อเปิด
การสแกนรหัส QR บน PC หรือ Mac
การสแกนรหัส QR บนคอมพิวเตอร์จะแตกต่างจากโทรศัพท์เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ยากอะไร คุณมีตัวเลือกหลัก ๆ สองวิธี:
วิธีที่ 1 ใช้เครื่องสแกน QR บนเว็บไซต์
- ค้นหาเครื่องมืออ่านรหัส QR ออนไลน์ เช่น Web QR.
- จากตรงนั้น คุณสามารถสแกนรหัสโดยใช้กล้องคอมพิวเตอร์ของคุณหรืออัปโหลดรูปภาพรหัส QR เพื่ออ่านได้
วิธีที่ 2 ดาวน์โหลดแอปเฉพาะ
- ดาวน์โหลดแอปเครื่องอ่านรหัส QR ที่ไว้วางใจได้สำหรับระบบปฏิบัติการของคุณ
- เปิดแอปและสแกนรหัสโดยใช้กล้องถ่ายรูปหรืออัปโหลดรูปภาพที่มีรหัส QR
วิธีสร้างรหัส QR ของคุณเอง
คุณยังสามารถสร้างรหัส QR ของคุณเองเพื่อแชร์ไฟล์ โปรโมทสินค้าหรือเพิ่มผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียของคุณได้อีกด้วย โชคดีที่มีเครื่องมือสร้างรหัส QR อยู่มากมายที่พร้อมให้บริการแก่คุณ
เครื่องมือสร้างรหัส QR ฟรีและเสียเงิน
คุณสามารถใช้เครื่องมือฟรีบนเว็บและแอปมือถือมากมาย เช่น Adobe Express QR code generator หรือ QR Code Generator นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกแบบเสียเงิน ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีฟีเจอร์เพิ่มเติม การปรับแต่งที่ดีกว่า ความปลอดภัยที่แข็งแกร่งกว่าและความสามารถในการสแกนรหัสจำนวนมากในเวลาเดียวกันได้ ซึ่งทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ใช้ธุรกิจที่ต้องการสร้างรหัส QR จำนวนมากอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
เพื่อสร้างรหัส QR ฟรี:
- เยี่ยมชมเว็บไซต์สร้าง กรอกลิงก์หรือข้อมูลที่คุณต้องการเก็บไว้ในรหัส QR ของคุณ

- คลิกที่ปุ่มดาวน์โหลด (Download) เพื่อบันทึกรหัสของคุณและแชร์ได้ตามต้องการ

การใช้ Chrome เพื่อสร้างรหัส QR
Chrome ทำให้การสร้างรหัส QR เป็นเรื่องง่ายโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือหรือดาวน์โหลดอะไรเพิ่มเติม ไม่ว่าคุณจะใช้โทรศัพท์หรือเดสก์ท็อป คุณก็สามารถเปลี่ยนหน้าเว็บใด ๆ ให้เป็นรหัสที่สแกนได้เพื่อแบ่งปันกับผู้อื่นได้
บน Android
แอปมือถือ Chrome สำหรับ Android มีเครื่องสร้างรหัส QR ภายในตัว ใช้งานได้ฟรี ใช้งานง่ายและไม่ต้องดาวน์โหลดหรือใช้ซอฟต์แวร์เพิ่มเติม แค่ปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้เพื่อใช้งาน:
- เปิดหน้าเว็บที่คุณต้องการแบ่งปันในรหัส QR จากนั้นแตะที่ไอคอนจุดสามจุดที่ด้านบนมุมขวาตามด้วยแชร์

- แตะที่รหัส QR

- รหัส QR ของคุณจะปรากฏและคุณจะสามารถแตะที่ดาวน์โหลดเพื่อบันทึกรูปภาพเพื่อแชร์กับผู้อื่นได้

บน iPhone
- เปิดหน้าเว็บที่คุณต้องการแชร์ใน Chrome
- แตะที่ไอคอนแชร์ที่อยู่ด้านบนมุมขวา

- เลือกสร้างรหัส QR

- ระบบจะสร้างรหัส QR ของคุณขึ้นมาพร้อมให้บันทึกหรือแชร์ทันที

บน desktop
Google ยังมีเครื่องสร้างรหัส QR ฟรีภายใน Chrome สำหรับ PC และ Mac:
- เปิดหน้าเว็บใด ๆ
- คลิกขวาที่ใดก็ได้ในหน้าและเลือกตัวเลือกเพื่อสร้างรหัส QR สำหรับหน้านี้

- รหัส QR จะปรากฏพร้อมให้ดาวน์โหลดและแชร์ได้ทันที

แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างรหัส QR
การสร้างรหัส QR นั้นง่าย แต่การทำให้มั่นใจว่ามันใช้งานได้จริงสำหรับผู้ใช้อาจยากกว่าที่คิดสักหน่อย รหัสที่ได้รับการออกแบบมาไม่ดีหรือไม่ได้ทดสอบอาจทำให้ผู้คนหงุดหงิดได้แทนที่จะกลายเป็นช่วยพวกเขา นี่คือแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดที่คุณควรคำนึงถึง:
- ตรวจสอบให้มั่นใจว่าลิงก์นำไปยังหน้าที่เป็นมิตรต่อมือถือเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้บนโทรศัพท์และแท็บเล็ต
- ทดสอบรหัส QR ของคุณก่อนที่จะแชร์
- เพิ่มบริบทสักหน่อยเพื่อให้ผู้ใช้ทราบว่ารหัส QR คืออะไรและจะส่งพวกเขาไปที่ไหน
- ตรวจสอบให้มั่นใจว่ารหัส QR ใด ๆ ที่คุณแชร์มีขนาดใหญ่มากพอให้สแกนได้ง่าย ๆ
- หลีกเลี่ยงการปรับแต่งการออกแบบรหัส QR ที่มากเกินไปเนื่องจากการทำแบบนี้อาจไปรบกวนความสามารถในการสแกน
รหัส QR มีไว้ทำไม?
รหัส QR ได้ก้าวจากกลุ่มเฉพาะไปสู่การใช้งานโดยทั่วไป โดยแสดงให้เห็นในสถานการณ์จริงหลากหลายรูปแบบ นี่คือการใช้งานทั่วไปที่พบบ่อยบางส่วน:
- การตลาดและการโฆษณา: คุณมักจะเห็นรหัส QR อยู่บ่อย ๆ บนโปสเตอร์ บิลบอร์ด ใบปลิวหรือแม้กระทั่งโฆษณาโทรทัศน์ สิ่งนี้ทำให้ผู้คนสแกนได้ง่ายและเข้าถึงเว็บไซต์ รับคูปอง ลงทะเบียนรับจดหมายข่าวสารหรือเรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการได้ทันที
- การชำระเงินและธุรกรรมการเงิน: ร้านค้า ร้านอาหารและแอปมากมายตอนนี้ให้คุณชำระเงินโดยการสแกนรหัส QR ง่าย ๆ แทนที่จะต้องมานั่งกรอกรายละเอียดบัตรหรือรูดบัตร คุณแค่สแกนและแตะยืนยัน ทั้งรวดเร็ว สะดวก ปลอดภัยและเหมาะสำหรับการชำระเงินแบบไร้การสัมผัส
- การเดินทางและการออกตั๋ว: โรงแรมใช้รหัส QR เพื่อการเช็กอินที่รวดเร็ว ไร้การสัมผัสและสายการบิน ผู้ให้บริการรถไฟและสถานที่จัดกิจกรรมก็ใช้ตั๋วที่มีรหัส QR แค่สแกน ขึ้นเครื่องและก็เดินทาง ไม่ต้องใช้ตั๋วแบบกระดาษอีกต่อไป
- บรรจุภัณฑ์สินค้าและสินค้าคงคลัง: รหัส QR สามารถปรากฏบนบรรจุภัณฑ์สินค้าบางอย่างเพื่อการเข้าถึงรายละเอียด เช่น ส่วนประกอบ คำแนะนำหรือการตรวจสอบสินค้าจริงได้ทันที ในคลังสินค้าและการค้าปลีก รหัส QR จะช่วยติดตามและจัดการกับสินค้าคลังให้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- การศึกษาและการจัดการกิจกรรม: โรงเรียนและมหาวิทยาลัยใช้รหัส QR ในห้องสมุด ห้องเรียนและสื่อการสอนเพื่อแบ่งปันทรัพยากรอย่างเร็ว ผู้จัดกิจกรรมใช้รหัส QR เพื่อติดตามผู้เข้าชม แบ่งปันกำหนดการและโปรโมทกิจกรรมที่กำลังจะมาถึง
รหัส QR ปลอดภัยไหม?
รหัส QR นั้นสะดวกสบายและมีการใช้งานอย่างกว้างขวาง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ารหัส QR จะปลอดภัยอยู่เสมอ พวกหลอกลวงและอาชญากรทางไซเบอร์พัฒนาวิธีการมากมายในการใช้รหัส QR ในทางที่ไม่ถูกต้อง บ่อยครั้งที่พวกเขาเปลี่ยนมันเป็นรหัส QR ที่เป็นอันตรายที่จะหลอกผู้คนให้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายหรือดาวน์โหลดมัลแวร์

- การปลอมแปลงรหัส QR: สิ่งนี้จะเกิดขึ้นตอนที่พวกหลอกลวงปิดทับหรือเปลี่ยนรหัส QR ที่ถูกต้อง (เช่น รหัส QR บนโปสเตอร์หรือเมนูร้านอาหาร) เป็นเวอร์ชันปลอมของพวกเขาเอง สิ่งนี้ดูปลอดภัย แต่การสแกนรหัสดังกล่าวอาจส่งคุณไปยังที่ที่คาดไม่ถึง ซึ่งบ่อยครั้งเป็นเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย
- การฟิชชิ่งผ่าน QR: นักโจมตีบางคนซ่อนลิงก์ฟิชชิ่งเอาไว้ข้างในรหัส QR หากคุณสแกนรหัสดังกล่าวและไปยังลิงก์นั้น คุณอาจถูกนำไปยังหน้าเข้าสู่ระบบของปลอมที่ออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลของคุณหรือเว็บไซต์ที่จะทำให้ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลของคุณตกอยู่ในความเสี่ยง
- มัลแวร์: รหัส QR ที่เป็นอันตรายอาจซ่อนลิงก์ดาวน์โหลดมัลแวร์เอาไว้ การสแกนและแตะเพียงครั้งเดียวอาจทำให้คุณติดตั้งไวรัสหรือสปายแวร์ลงบนอุปกรณ์ได้โดยไม่รู้ตัว
รหัส QR จัดเก็บข้อมูลส่วนตัวไหม?
สำหรับตัวรหัสเองแล้วไม่ การสแกนรหัส QR นั้นจะไม่ได้มอบสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ แต่ถึงอย่างนั้น เว็บไซต์หรือแอปที่นำคุณไปอาจร้องขอข้อมูลหรือติดตามกิจกรรมของคุณและนักแสดงนิสัยไม่ดีก็จะใช้ข้อมูลนี้เพื่อประโยชน์ของพวกเขา โดยการสร้างรหัส QR ที่เป็นอันตรายเพื่อเก็บข้อมูลความลับของคุณเป็นพิเศษ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม: คุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ในคู่มือความปลอดภัยของรหัส QR ของเรา
จะดูแลรักษาความปลอดภัยตอนใช้รหัส QR ได้อย่างไร
การใช้รหัส QR อย่างปลอดภัยคือกุญแจสำคัญในการหลีกเลี่ยงการหลอกลวงและโจรขโมยข้อมูล นี่คือขั้นตอนง่าย ๆ ในการดูแลให้ตัวคุณเองปลอดภัย:
- ตรวจสอบรหัสนี้มาจากที่ไหน: ตรวจสอบแหล่งที่มาและบริบทของรหัส QR อีกครั้งก่อนสแกนเสมอ หากคุณได้รับรหัส QR หนึ่งทางอีเมล, SMS หรือโซเชียลมีเดีย ให้ตรวจสอบให้มั่นใจว่ารหัสดังกล่าวมาจากแหล่งที่มารหัส QR ที่ไว้วางใจได้ เช่น เว็บไซต์อย่างเป็นทางการหรือธุรกิจที่รู้จัก
- ระมัดระวังในที่สาธารณะ: ในที่สาธารณะ ให้ตรวจสอบรหัสที่ดูเหมือนจะเสียหาย มีรอยข่วนหรือถูกเปลี่ยนโดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ อย่างใกล้ชิด หากไม่มีบริบทที่แน่ชัดเกี่ยวกับว่ารหัสนี้จะนำไปที่ไหน อย่าสแกน
- ตรวจสอบลิงก์: ก่อนที่คุณจะแตะที่ลิงก์ใด ๆ ให้ดู URL ที่กล้องหรือแอปสแกนของคุณแสดงให้เห็น มองหาคำสะกดผิด ชื่อโดเมนแปลก ๆ หรือลิงก์แบบสั้นที่ซ่อนปลายทางที่แท้จริงเอาไว้
การเลือกแอปสแกนรหัส QR ที่ปลอดภัย
กล้องถ่ายรูปภายในโทรศัพท์ของคุณสามารถสแกนรหัส QR ส่วนใหญ่ได้ดี แต่การใช้แอปเฉพาะสำหรับการสแกนจะช่วยเพิ่มชั้นความปลอดภัยเพิ่มเติมให้ แอปที่ดีที่สุดจะสามารถตรวจจับลิงก์ที่เป็นอันตรายหรือแม้กระทั่งปิดกั้นรหัส QR ที่เป็นอันตรายได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยคุณหลีกเลี่ยงเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย
สำหรับการป้องกันเพิ่มเติม ให้พิจารณาการใช้เดสก์ท็อปหรือบริการ VPN บนมือถือเพื่อเข้ารหัสการเชื่อมต่อของคุณและเพิ่มความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องดีที่คุณจะต้องดูแลให้อุปกรณ์ของคุณอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อที่คุณจะได้มีฟีเจอร์ความปลอดภัยล่าสุดเสมอก่อนที่จะสแกนรหัส QR
คำถามที่พบบ่อย: คำถามทั่วไปเกี่ยวกับรหัส QR
เครื่องมือสร้างรหัส QR ของ Google ฟรีไหม?
ฟรี Google เสนอเครื่องมือสร้างรหัส QR ฟรีที่สร้างได้โดยตรงในเบราว์เซอร์ Chrome ผู้ใช้ Chrome สามารถเปิดหน้าเว็บ คลิกขวาที่ใดก็ได้ในหน้าดังกล่าว จากนั้นเลือก "สร้างรหัส QR สำหรับหน้านี้” เพื่อสร้างรหัส
ฉันสามารถสแกนรหัส QR โดยไม่มีแอปได้ไหม?
นั่นขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ของคุณ แต่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ ซึ่งรวมถึงทั้งอุปกรณ์ Android และ iPhone ต่างก็มีความสามารถในการอ่านรหัส QR ภายในซอฟต์แวร์กล้องถ่ายรูป ดังนั้นในกรณีส่วนใหญ่แล้ว สิ่งที่คุณต้องทำคือเปิดกล้องถ่ายรูปของอุปกรณ์ของคุณและสแกนรหัสโดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งแอปบุคคลที่สามใด ๆ
โทรศัพท์ทุกรุ่นรู้จักรหัส QR ใช่ไหม?
โทรศัพท์ทุกรุ่นน่าจะรู้จักและสแกนรหัส QR ได้ ใช่ แต่ถึงอย่างนั้นคุณอาจพบว่าโทรศัพท์รุ่นเก่าไม่มีฟังก์ชันนี้ภายในตัวตั้งแต่แรก ดังนั้นคุณจะต้องดาวน์โหลดแอปอ่านรหัส QR แยกต่างหากเพื่อสแกน ในอุปกรณ์รุ่นใหม่กว่า โดยปกติแล้วคุณจะสามารถใช้แอปกล้องถ่ายรูปเพื่อสแกนรหัส QR ได้อย่างง่ายดาย
ฉันสามารถสร้างรหัส QR สำหรับลิงก์ได้ไหม?
คุณสามารถใช้เครื่องมือสร้างรหัส QR ฟรีเพื่อสร้างรหัส QR สำหรับลิงก์ได้ มีเครื่องมือดังกล่าวมากมายพร้อมให้บริการและโดยปกติแล้วก็ใช้งานได้ง่าย ๆ สิ่งที่คุณต้องทำคือคัดลอกและวางลิงก์ในเครื่องมือสร้าง คลิกที่ปุ่มเพื่อสร้าง จากนั้นก็ดาวน์โหลด บันทึกหรือแชร์รหัส QR ใหม่ของคุณได้ตามต้องการ
เครื่องมือสแกนรหัส QR ที่ปลอดภัยที่สุดคือเครื่องมือใด?
แอป Safe QR Code Reader จาก Trend Micro เป็นหนึ่งในเครื่องสแกนรหัส QR ที่ปลอดภัยในการใช้งานที่สุดเนื่องจากเครื่องมือนี้ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และมีฟีเจอร์ความปลอดภัยภายในตัว ตัวอย่างเช่น มันสามารถบอกคุณได้ว่ารหัส QR นั้นปลอดภัยต่อการใช้งานหรือไม่และจะแจ้งเตือนคุณเกี่ยวกับลิงก์ที่น่าสงสัยหรือเป็นอันตรายใด ๆ นอกจากนี้ยังปิดกั้นและรายงานรหัส QR ที่เป็นอันตรายโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยดูแลให้คุณปลอดภัยจากรหัส QR ปลอมและการโจมตีทางไซเบอร์
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจในการใช้รหัส QR มีอะไรบ้าง?
หากธุรกิจของคุณใช้รหัส QR เพื่อแบ่งปันข้อมูล โปรโมทสินค้าหรือเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้ เรื่องสำคัญคือต้องทำให้รหัสนั้นชัดเจน ใช้งานได้และเป็นมิตรต่อผู้ใช้ ประสบการณ์การใช้งาน QR ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีอาจช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วม ในขณะที่การออกแบบแย่ ๆ อาจทำให้ผู้ใช้หงุดหงิดหรือแม้กระทั่งไล่พวกเขาออกไปได้
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ให้ระบุบริบทและคำแนะนำที่ชัดเจนเสมอเพื่อที่ผู้ใช้จะได้ทราบแน่ชัดว่ารหัส QR นี้มีไว้เพื่ออะไร ใช้คำที่กระตุ้นการดำเนินการ เช่น "สแกนเพื่อรับส่วนลด 20%” หรือ "สแกนเพื่อดูเมนูของเรา” เพื่อกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วม รักษาการออกแบบให้มีความเหมาะสมโดยใช้ความคมชัดสูงและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางรอบ ๆ รหัส ซึ่งจะช่วยให้เครื่องอ่านอ่านรหัสได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
ก้าวแรกสู่การปกป้องตัวตนออนไลน์ของคุณ ลองใช้ ExpressVPN ไม่มีความเสี่ยง
รับ ExpressVPN